เราต่างรู้ดีว่า “วิตามินซี” เป็นหนึ่งในวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกาย เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรค เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีขึ้นเองได้ และไม่สามารถเก็บสะสมได้ เราจึงต้องรับประทานวิตามินซีให้ได้ปริมาณต่อวันที่ร่างกายต้องการ เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับวิตามินซี
ไม่ว่าใครก็คงได้ยินประโยชน์ของวิตามินซีกันมามาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพร่างกายและเรื่องของความงาม ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของวิตามินซีคือ การช่วยชะลอความแก่ ทั้งในแง่ความแข็งแรงของร่างกายและในเรื่องของความงาม
ประโยชน์ของวิตามินซีที่ทุกคนควรรู้
การรับประทานวิตามินซีให้ได้ปริมาณต่อวันตามที่ร่างกายต้องการจะมีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพและความงามดังต่อไปนี้
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ต่อต้านการอักเสบ ช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
- บรรเทาอาการภูมิแพ้ หอบหืด ไซนัสต่าง ๆ
- เสริมสร้างคอลลาเจน และกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ลดจุดด่างดำ ช่วยทำให้ผิวพรรณสวยงาม
“วิตามินซี” ปริมาณต่อวันที่ร่างกายต้องการคือเท่าไร
สำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานวิตามินซีเพื่อดูแลทั้งสุขภาพและความงาม อาจจะมีคำถามว่า เราต้องรับประทานวิตามินซีเท่าไรถึงจะมีปริมาณต่อวันที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
คำตอบก็คือ หากว่าเป็นบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เราควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้มีสุขภาพดี แต่หากว่าเป็นผู้ที่เป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ ควรเพิ่มปริมาณวิตามินซีเป็น 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม หากว่าเราต้องการรับประทานวิตามินซีให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ เราไม่ควรจะรับประทานวิตามินซีภายในครั้งเดียว เพราะหากว่ารับประทานวิตามินซีปริมาณต่อวันที่มากเกินไปร่างกายจะอิ่มตัว และไม่สามารถดูดซึมได้ จึงควรแบ่งรับประทานเป็นช่วง ๆ จะดีกว่า โดยแบ่งรับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม 2-4 มื้อต่อวัน
อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
โดยปกติแล้ว เราสามารถรับวิตามินซีได้จากผักและผลไม้ที่เรารับประทานในแต่ละวัน โดยผักผลไม้ที่มีวิตามินซีอยู่มากมีดังต่อไปนี้
- พริก แม้จะเผ็ดสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ก็อุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุนานาชนิด
- ฝรั่ง โดยเฉพาะฝรั่งขี้นกที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ใครที่มีปัญหาเรื่องคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตรับประทานฝรั่งขี้นกจะช่วยลดปัญหาสุขภาพดังกล่าวได้
- เคล เป็น Super Food อย่างหนึ่งที่นอกจากมีวิตามินซีในปริมาณที่มากแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และยังช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย
- สตรอว์เบอร์รี ไม่เพียงแค่มีรสชาติเปรี้ยวหวานอร่อย และเป็นของโปรดของใครหลายคนแล้ว ยังมีวิตามินซีและแร่ธาตุสูง หากรับประทานเป็นประจำจะมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็ง และภาวะสมองเสื่อมได้
- ตระกูลส้ม หากว่าพูดถึงผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีก็ต้องพูดถึงส้ม เพราะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ไม่ว่าจะเป็นส้มสายพันธุ์ไหนก็ตาม
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีอยู่ในปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นมะละกอ แคนตาลูป กีวี บรอกโคลี ลิ้นจี่ มะขามป้อม คะน้า ชะอม ปวยเล้ง ผักบุ้ง และผักผลไม้อื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน การรับประทานผักผลไม้อาจจะได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และบางคนอาจจะมีข้อจำกัดในการรับประทานน้ำตาลที่แฝงอยู่ในผลไม้บางชนิด การรับประทานวิตามินเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกในการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
หากรับประทานวิตามินซีมากเกินไปจะเป็นอย่างไร?
คำถามถัดมาที่หลายคนสงสัยคือ หากว่าเรารับประทานวิตามินซีมากเกินไปจะเกิดผลกระทบอะไรต่อร่างกายหรือไม่
วิตามินซีเป็นวิตามินละลายในน้ำ หากได้รับในปริมาณมากเกินไป ร่างกายจะขับออกมาในรูปแบบของของเสียอย่างปัสสาวะ เว้นแต่ว่าเรารับประทานวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก ๆ ประมาณ 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป อาจจะทำให้ท้องเสียหรือถ่ายเหลวได้เช่นเดียวกัน
อาการที่บ่งบอกว่าร่างกายขาดวิตามินซี
การขาดวิตามินซีเป็นอันตรายมากกว่าการรับวิตามินซีมากเกินขนาด ซึ่งอาการเมื่อขาดวิตามินซี มีดังต่อไปนี้
- เลือดออกตามไรฟัน
- น้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญในร่างกาย
- ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอย ดูไม่สดชื่น
- เส้นเลือดเปราะและแตกง่าย รวมถึงแผลหายช้า
- โลหิตจาง
- เป็นหวัดง่าย หรือภูมิแพ้บ่อย
- อ่อนเพลีย อ่อนล้า
สำหรับใครที่กำลังต้องการเสริมวิตามินซีให้มีปริมาณต่อวันเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือต้องการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ขอแนะนำวิตามินเม็ดฟู่ Boom D-Nax นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซี และวิตามินบีรวม ช่วยป้องกันความเสื่อม และบำรุงระบบประสาทและสมอง รับประทานง่าย รสชาติดี เหมาะกับทุกวัย